Franz Liszt (1811-1886)

ลักษณะผลงาน Piano solo ของ Listz

ผลงานเปียโนของ Liszt เต็มไปด้วยลีลาของการใช้ octaves, trills, runs, arpeggios การย้ายตำแหน่งมือ บทบาทที่มอบหมายให้เปียโนของเขา เป็นเสมือนบทบาทของ orchestra ทั้งคุณสมบัติของสีสัน (color) และความก้องกังวาน (sonority) ที่ต้องใช้พลังงานและความละเอียดในสัมผัสสูง

Lisztเป็นคนแรกที่ใช้คอร์ด Augmented และขั้นคู่ tritone อย่างกว้างขวางซึ่งทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นปีศาจแห่งดนตรี การใช้คอร์ดที่กล้าหาญของ Liszt และ harmony ที่เป็น chromatic สนับสนุนให้งานของเขาค่อนไปทาง Wagner งานของ Liszt กว่าครึ่งชัดเจนในการย้ายบันไดเสียงไปสู่ key อันห่างไกล และมีสัดส่วนการ modulation ที่แน่นอนกว่า harmony ที่ Wagner ใช้

การใช้ส่วนประกอบย่อยและชุดต่างๆของขั้นคู่ เล่นร่วมกับระดับเสียง ช่วยให้เกิดการประสานรวม (consonance) โดยคาดไม่ถึง เขาชอบใช้ single chord และจดจ่ออยู่กับการดึงเอาคุณสมบัติ และแสดงคุณภาพของมันออกมา เหมือนกับวิธีของ Schumann แต่ว่า Liszt ทำและขยายในสัดส่วนที่มากกว่า

ยังไงก็ตามการจัดวางความคิดทางพื้นผิวการประสานและสร้างออกมาเป็นรูปร่าง (figure) เป็นคุณสมบัติที่เขายังได้ชื่อเสียงในทางไม่ดีว่าอ่อนแอและเป็นไปตามอำเภอใจ ดูเหมือนว่า Liszt จะไม่สนใจในการสร้าง texture สำหรับ harmony ของเขาให้ได้ดุลย์สวยงาม เหมือนกับที่ Hydn และ Beethoven ได้บรรจงจัดวาง harmonic ground ให้รวมตัวกันอย่างเป็นระบบระเบียบ

ในงานของ Liszt ความสัมพันธ์ของรูปร่างต่อพื้นฐานการประสานเป็นไปแบบดื้อดึง และการขยายความสืบเนื่องของ harmonic progression นั้นเป็นไปอย่างกว้างขวาง

ช่วงสมัยกลางของการผลงานเขา Liszt สอดใส่โน้ตเดี่ยวจำนวนมากขึ้นในประโยคเพลง cadenceแบบเรียบง่ายเจาะจงมักจะถูกหลีกเลี่ยง และพิจารณาการใช้ whole–tone chords ลักษณะของ harmony แบบ impressionistic บนลักษณะสไตล์ของ Derbusy และ Ravel ก็เริ่มมีขึ้น สิ่งนี้เป็นอิทธิพลของดนตรีศตวรรษที่ 20

ผลงานช่วงหลังของชีวิตเขา Liszt ได้และพยายามหันเหออกจากอิทธิพลของ Wagner ตัวผลงานประกอบไปด้วยเสียงประสานที่ไม่กลมกล่อม มีการต่อสร้างคอร์ดขึ้นไปเป็นขั้นคู่ 11 และ 13 พื้นผิว (texture) ที่บาง อ่อนแอ การดำเนินไปของเพลงไร้จุดศูนย์กลาง ไร้ทิศทาง หลายขณะเป็นความรู้สึกที่หมดกำลังใจ การใช้ความเงียบเข้ามามีบทบาทในสำนวนดนตรีแบบแนวละคร การปฏิเสธอย่างสมบูรณ์ถึงความเป็น tonality การขาดท่วงทำนองดำเนินไปอันชัดเจน ลักษณะของการเล่นเสียงที่กะทัดรัด เหมือนเช่นเดียวกับโลกดนตรีของ Schoenberg และ Webern หลายๆผลงานในช่วงท้ายชีวิตเป็นการแสดงความคิดที่มีอยู่ก้นบึ้งในใจ เกี่ยวกับความตายและการสำนึกบาป

ผลงานโดยรวมของ Listz
ผลงานระดับง่าย-ปานกลาง

- Consolations (Six piece) เป็นเพลงใช้ปลอบโยนจิตใจสั้นๆฟังสบาย
- Liebestraume (Dreams of love) No.1-3 No.1 ใช้เทคนิคการเล่น trill คู่เป็น accompany,
No.2 เรียบง่ายสุด No.3 มีท่อนกลางที่เล่นสำนวนขึ้นไปสู่
climax ไม่ยากเกินไปแต่ต้องการพลัง
- Harmonies po?tiques et religieuses มีลักษณะของ latin hymn ต้องเล่นในลักษณะ cantabile


ผลงานระดับยาก

- Ballade in Bm ใช้เทคนิค broken, interlocking octave, chord ที่ได้รับการ sustain จาก pedal
- Hungarian Rhapsodies
- Annees de Pelerinage (Pilgrim Years)
- Book I (Suisse) เป็นช่วงแรกของการเดินทาง
- Book II (Italie) เป็นช่วงหลังของการเดินทาง
- Legendes 2 บท
1. St. Francis preaching to the birds ใช้ลักษณะของ extended passage ในมือข้างเดียว
ต้องเล่นทั้ง trill และ melody ต้องการเทคนิคอันละเอียดอ่อนของนิ้ว
2. St. Francis walking on the waves มือซ้ายเป็น broken octaves ซึ่งต้องใช้ความทนทาน
ต้องการ กลวิธีในการเล่น climax ซึ่งมีเทคนิคที่ควรแก่การศึกษา
- Supplement l 'Italie-Venezia e Napoli (Gondoliera, Canzone,Tarantella)
- Fantasia and Fugue in G minor